ทำไมถึงไม่อยากให้แปลงโปรแกรม Java เป็น .exe

เพราะว่ามันไม่จำเป็นต้องแปลง เราสามารถรันไฟล์ที่เป็น .jar ได้เลยไง มันก็เหมือนกับไฟล์ อะไรสักไฟล์ที่ต้องใช้โปรแกรมบางอย่างในการเปิดใช้งาน คือให้ลืมมันไปก่อนว่ามันเป็นโปรแกรมที่จะรันบน Windows เป็นเพราะไอความยึดติดที่ต้องการจะรันโปรแกรมที่เราเขียนบน Windows นี่แหละ ที่ทำให้ทุกคนมองไปที่สิ่งเดียวกันหมดเลย คือต้องการที่จะแปลงโปรแกรม Java เป็น .exe แต่มาวันนี้เราควรจะเข้าใจสักทีถึงความหมายของประโยคที่พูดว่า Write once, run anywhere คือโปรแกรมของเราเนี่ยมันสามารถเอาไปรันได้ทุกๆ Platform ไม่ใช่แค่แปลความหมายเป็นไทยนะ แต่ต้องเข้าใจความหมายของมันจริงๆ ลองนึกดูว่า ถ้าเราเขียนโปรแกรมเสร็จ พอจะเอามาใช้งานบน Windows เราแปลงมันเป็น .exe เหรอ? ไม่ใช่ แล้วพอจะเอาไปใช้กับ Mac เราแปลงมันเป็น .dmg เหรอ? ไม่ใช่ จะใช้กับ limux?? 9ล9 สรุปเลยละกัน ว่าไฟล์โปรแกรมของ Java ก็คือ .jar มันเอาไปใช้ได้เลย ซึ่งมันก็เหมือนกับไฟล์ .doc ซึ่งเป็นไฟล์ที่ต้องรันด้วยโปรแกรม MS Office หรือพวก โปรแกรมเปิดเอกสารต่างๆ …

ขั้นตอนการสร้าง Software ให้คนเอาไปติดตั้งได้ง่าย

เลียนแบบมาจาก Famous 5-Minute Install ของ WordPress http://codex.wordpress.org/Installing_WordPress#Famous_5-Minute_Install เว็บที่สร้างของ java จะเป็นไฟล์ .war ให้เราสร้างมาแล้วรองรับการเอาไปติดตั้งอย่างง่ายๆ เหมือนของ WordPress 0.หลังจากที่มีไฟล์ .war อยู่ในมือแล้ว ให้เริ่มขั้นตอนการติดตั้งได้เลย 1.สร้าง database ที่จะใช้กับเว็บ และ user/pass สำหรับเข้าใช้งาน database อันนั้น (อย่าลืมตั้งสิทธิให้สามารถแก้ไข database นั้นได้) 2.แตก zip ไฟล์ .war เข้าไปที่ไฟล์ ที่เราสร้างไว้สำหรับ config database แล้วใส่ข้อมูลเข้าไป คือ ชื่อ database, username, password 3.zip ให้เป็น .war ใหม่อีกครั้ง แล้วเอาไปใส่ไว้ที่ server 4.run โปรแกรมผ่าน web browser เข้าไปที่ page …

การ Export Java Program

เมื่อ project เราพร้อมแล้วให้ click ขวาที่ตัว project เลือก export เลือก java>runnable jar file เลือก lunch config คือเลือกว่าไฟล์ไหนเป็นไฟล์หลักที่จะเริ่ม run (ต้องมี main method อยู่) เลือก ว่าจะ export ไปไว้ที่ไหน กด Finish ได้เลย จะได้ jar file ออกมา สามารถ double click ได้เลย มันจะ run ทันที ถ้ามีการติดตั้ง java ไว้แล้ว ระวัง:error Could not find main method from given launch configuration วิธีแก้คือ ให้เราใช้ eclipse …

เริ่มต้นใหม่กับ Java Swing

เริ่มแรกเลยคือ มี 2 แบบให้เลือก 1.ไม่ต้องมี layout manager 2.มี layout manager 1.ถ้าไม่มี เราก็สร้าง class ที่ extends JFrame แล้วก็ set ทุกอย่างให้ตัวเองได้เลย เช่น JButton ok = new JButton(“OK”); add(ok); setTitle(“Absolute positioning”); setSize(300, 250); 2.ถ้ามี เราก็จะใช้ JPanel เป็นตัวแทนของ Layout ประเภทต่างๆ แล้วก็มี JFrame frame = new JFrame(“name”); อยู่บนสุดของทุกอย่าง (มี JPanel หลายๆตัวอยู่ข้างใน) อยากจะให้เป็น Layout อะไรก็เซ็ตเข้าไปที่ JPanel เช่น JPanel panel = new …